เจอสุดยอดของดีระดับพรีเมี่ยมอีกแล้วค่ะ ร้าน Wagyu Samurai Restaurant นั้น เสิร์ฟเนื้อคุณภาพเยี่ยมจากญี่ปุ่น เนื้อเกรดดีขนาดที่ทางร้านมั่นใจจนกล้าเสิร์ฟเป็นซูชิและซาชิมิให้คุณได้ทาน


Wagyu Samurai

ที่ตั้ง: 47 Soi Samanchan-Barbos, Prakanong, Klongtoey, Bangkok 10110 Website : Wagyu Samurai

บางทีของดีๆ ก็อยู่ในที่ลับตา แต่ขาชิมหูไวตาไวอย่างเราก็ลัดเลาะไปชิมมาจนได้ มาคราวนี้เพราะเจอสุดยอดของดีระดับพรีเมี่ยมอีกแล้วค่ะ ร้าน Wagyu Samurai Restaurant นั้น เสิร์ฟเนื้อคุณภาพเยี่ยมจากญี่ปุ่น เนื้อเกรดดีขนาดที่ทางร้านมั่นใจจนกล้าเสิร์ฟเป็นซูชิและซาชิมิให้คุณได้ทาน ร้าน Wagyu Samurai Restaurant หลบอยู่ในซอย Barbos 2 ในซอยสุขุมวิท 42 ค่ะ ด้านหน้ามีป้ายชื่อร้านแปะอยู่บนกำแพง ประตูกว้างพอรถผ่านสบายๆ แต่พอเข้าไปแล้วก็ต้องตกใจกับอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ ขนาดที่ว่าจอดรถได้สักยี่สิบคัน แล้วยังเหลือที่ให้จัดเป็นสวนสวยๆ ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นและความเงียบสงบที่คุณจะได้พบหลังจากเลี้ยวหลบความวุ่นวายเข้ามาในร้าน ชื่อ Wagyu Samurai นั้นรู้จักกันเป็นอย่างดีในหมู่ชาวญี่ปุ่นเพราะเป็นบริษัทขายเนื้อชื่อดังที่พูดชื่อปั๊บทุกคนจะต้องร้องอ๋อ! นอกจากจะขายเนื้อชั้นดีให้ร้านอาหารชั้นเยี่ยมของญี่ปุ่นแล้วก็ยังส่งเนื้อวากิวออกไปขายในอีกหลายประเทศสำหรับของประเทศไทยนั้นทางบริษัทได้เข้ามาจัดตั้งสาขาเผื่อขายส่งให้กับร้านอาหารดังๆ ที่ต้องการเนื้อเกรดสูงๆ พอทำมาได้สองสามปีจึงมีความคิดที่อยากจะเปิดร้านอาหารเองเพิ่มเติมด้วย ก็อะไรจะดีไปกว่าการให้คุณลูกค้าได้ทานเนื้อคุณภาพเยี่ยมสดตรงจากญี่ปุ่นโดยไม่ต้องผ่านเวลานานในการกระจายจัดจำหน่ายไปตามร้านต่างๆ จริงไหมล่ะคะ ตัวร้านเป็นอาคารสองชั้น ตกแต่งเรียบๆ ด้วยสีโทนไม้ และ โทนแดง มีทั้งส่วนของห้องรวมกว้างขวาง และมีห้องส่วนตัวห้องใหญ่เล็กต่างกันอีกหลายห้องที่ชั้นบน ส่วนตัวชอบลูกเล่นตรงผนังส่วนนี้ และชอบโคมไฟดีไซน์เก๋ๆ ของทางร้านมากๆ

นอกจากเนื้อจะส่งตรงจากญี่ปุ่น เชฟเองก็บินมาจากญี่ปุ่นเช่นกันค่ะโดยคุณเชฟ Ogata นั้นมีประสบการณ์ทำงานในร้านเนื้อชื่อดังหลายร้านในประเทศญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานหลายสิบปีก่อนที่จะบินลัดฟ้ามาเพื่อคุม Wagyu Samurai ที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากเนื้อของที่นี่เป็นเนื้อวากิวชั้นดีที่ทาง Wagyu Samurai ออกไปคัดเลือกอย่างพิถีพิถันจากของดีในจังหวัดต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น ทางเชฟจึงอยากให้ลูกค้าได้ทานเนื้อในแบบที่บริสุทธิ์ที่สุด แบบที่เป็นตัวมันเองสูง ผ่านการปรุงแต่งน้อย และให้คุณภาพและความอร่อยภายในของตัวเนื้อเองได้เปล่งประกายทำหน้าที่ของมันเอง ทางร้านจึงมักจะแนะนำลูกค้าให้ลองเป็นชาบูหรือสุกี้ยากี้ เพราะเนื้อแผ่นบางเฉียบจะสัมผัสน้ำร้อนเพียงนิดเดียวก่อนที่คุณจะได้ลิ้มรสที่แท้จริงของตัวเนื้อ แต่แน่นอนว่าทางร้านก็คาดการณ์ได้ว่าคนไทยพอพูดถึงวากิวก็มักจะคิดถึงสเต็กเนื้อกัน จึงมีเมนูสเต็กเนื้อไว้เตรียมพร้อมตอบรับความต้องการนี้ด้วย

วันนี้เรามาเยือนทั้งทีก็เลยต้องจัดเต็มชิมกันทั้งสามอย่าง ชุดชาบู และชุดสุกี้ยากี้ เราเลือกเป็นเกรด Premium – Japanese Wagyu Strip Loin (3,300B) ทั้งคู่ค่ะ ซึ่งนอกจากตัวท็อปตัวนี้ทางร้านก็ยังมีอีกสองทางเลือกคือ Extra Special – Japanese Wagyu Chuck Eye Roll (3,000B) และ Special – Japanese Beef Strip Loin (2,800B) ถ้าใครกลัวไม่อิ่มสามารถเพิ่มเนื้อได้โดย 150g ราคาจะอยู่ที่ 1,800/1,500/1,200B ตามลำดับ และสำหรับสเต็กนั้น เราเลือกเป็น Premium – Japanese Wagyu Strip Loin: 200g (3,500B) ซึ่งคนรักสเต็กก็มีอีกสองทางเลือกเช่นกันคือ Premium – Japanese Wagyu Tenderloin: 180g (3,500B) และ Special – Japanese Wagyu Round ค่ะ

ทั้งสามคอร์สจะเริ่มด้วย 3 sorts of special appetizers ชุดเดียวกัน มีสามอย่างน่าทานให้ลองชิม ตั้งแต่ Fruit with plenty cream cheese ผลไม้หลากชนิดจากญี่ปุ่นคลุกเคล้ากับครีมสลัดรสหวานไม่จัดทานแล้วสดชื้นสดชื่น Sesame Tofu เต้าหู้งาสูตรพิเศษที่เหนียวหนืดและมีรสชาติงาเข้มข้น ทานกับวาซาบิเผ็ดซ่าๆ เข้ากันดี Seared Wagyu Beef เนื้อวากิวที่จี่ขอบด้านนอกมานิดเดียวพอหอม จานถัดมา ชุดของสุกี้ยากี้จะเป็น Wagyu Beef Somen ส่วนชุดชาบูเป็น Wagyu Beef Yukke จานนี้เป็นเนื้อดิบหั่นเป็นเส้น วางมาบนใบโอบะ ทานกับต้นหอม เพิ่มรสสัมผัสกรุบๆ ด้วยเมล็ดงา เมื่อตักเข้าปากจะได้กลิ่นน้ำมันงาหอมอวลอยู่ในปาก ตัวเนื้อนุ่มมาก ถ้าใครกลัวเนื้อดิบให้คิดเสียว่ากำลังทาน Tuna tartare อารมณ์จะใกล้เคียงกัน ส่วนในชุดสเต็กจะเป็นสิ่งที่ส่วนตัวแล้วตั้งหน้าตั้งตารอคอย คือ Wagyu Sushi อันนี้พอเข้าใจได้ว่าการกินเนื้อดิบๆ เลยนั้น หลายๆ คนอาจจะเกร็ง แต่จริงๆ แล้วจานนี้ทานได้สบายๆ เนื้อเค้าคุณภาพดี แทรกมันสวยมาก เข้าปากแล้วนุ่มละลายในปากกลมกลืนไปกับข้าซูชิที่ปรุงรสออกมาได้พอดีไม่ออกเปรี้ยวเหมือนหลายๆ ที่ คำนี้นี่ทำเอาเคลิ้มสุดๆ จากประสบการณ์ที่เคยได้ทานซูชิเนื้อที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้วบอกได้เลยว่าคุณภาพเหมือนได้ไปนั่งทานที่ญี่ปุ่นอย่างไงอย่างงั้น

ถัดมาก็ล้างปากกันด้วยซุปใส Wagyu Ball Clear Soup ตัวซุปรสอ่อนๆ กลมกล่อม ตัวลูกชิ้นเนื้อสับทำมานุ่ม มีความหนืดนิดๆ กำลังดี ต่อด้วยทานผักนึ่ง Steamed Vegetables ซึ่งสองรายการนี้ก็เป็นเมนูที่จะเหมือนกันทั้งสามคอร์สเช่นเคย และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย สเต็กเนื้อมาให้เราได้เชยชมเป็นอันดับแรก เนื้อไม่หนามาก มันกำลังดีไม่เลี่ยนเกิน ทำความสุกมาได้พอดีสุดๆ กัดแล้วนุ่มฉ่ำ บรรยายอะไรแทบไม่ออกนอกจากจะบอกว่าฟินมากกก จานนี้เคียงมากับผักย่างหลายชนิด แอสพารากัส และกระเทียมที่ให้มาเพียบ

ทานสเต็กก็ว่าปลาบปลื้มจะแย่แล้ว เจอชาบูกับสุกี้ยากี้เข้าไปปลื้มยิ่งกว่า แค่ตอนเห็นลายหินอ่อนที่สวยสดของตัวเนื้อที่วางลงมาก็ตาเป็นประกายแล้ว พอได้ตักเข้าปากนี่แทบจะเห็นแสงส่องลงมาเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น คือเนื้อคุณภาพดีมาก นุ่มมาก รสชาติได้เรื่องมาก แตกต่างอย่างชัดเจนกับร้านทั่วๆ ไป และชนะร้านเกรดพรีเมี่ยมอีกหลายร้านที่เคยได้ลองชิมมา จุดที่ชอบคือทางร้านจะบริการทำเนื้อให้เลยซึ่งการันตีว่าเนื้อดี๊ดีของคุณจะไม่สุกจนเกินไป สำหรับสุกี้ยากี้ ทางร้านจะมีไข่ดิบมาให้ ซึ่งคุณสามารถนำเนื้อที่มีความหวานของน้ำสุกี้ติดมาอยู่แล้วจิ้มลงไปในไข่ ก็จะได้รสชาติทั้งหวานทั้งมันในคำเดียว ส่วนชาบูชาบูจะมีซอสมาให้สองชนิด คือซอสพอนสึรสเปรี้ยว และซอสงาที่จะมาบดงากันสดๆ ข้างโต๊ะให้ดู ซอสงาที่เพิ่งบดจะหอมกลิ่นงามากๆ ทานกับเนื้อที่ตัวน้ำชาบูไม่ได้มีรสชาติอะไรมากก็จะได้ความเข้มข้นของซอสงาชูรสเนื้อให้เด่นขึ้น

คอร์สก่อนจบนี่จะเป็นข้าว ซึ่งมีให้เลือกสามแบบคือ Rice/ Steamed Red Rice/Wagyu Beef Chazuke (Rice and Green Tea) Steamed Red Rice จะเป็นข้าวเหนียวนึ่งปนกับถั่วแดง ออกหวานถั่วแดงนิดๆ นึ่งมาพอดีกำลังเหนียวนุ่ม ส่วนที่ชอบสุดๆ ก็เห็นจะเป็น Wagyu Beef Chazuke ข้าวต้มเนื้อในซุปชา ที่ทำมาได้ชนะเลิศมาก ทั้งตัวเนื้อที่หมักมาจนรสชาติเข้มข้น ถึงจะออกเค็มแต่พอทานกับข้าวต้มในซุปชาก็สมดุลกันพอดีที่สุด เรียกว่าถ้าหมักเนื้อมาอ่อนกว่านี้ก็จะไม่แจ่มได้ขนาดนี้ ตัวซุปชาเอง ถ้าซดเปล่าๆ ก็จะรสอ่อนๆ นุ่มนวล ได้ความละมุนๆ แบบญี่ปุ่น ปิดท้ายมื้อสุดอร่อยด้วยเมลอนญี่ปุ่นหวานฉ่ำ จนเลิกแปลกใจว่าทำไมเมลอนญี่ปุ่นถึงแพงนักแพงหนา ก็ของเค้าดีจริงๆ นี่นา

มื้อนี้ประทับใจสุดๆ ด้วยคุณภาพเนื้อที่สุดยอดหาตัวจับยาก ราคาอาจจะดูสูงสักหน่อยแต่ที่นี่ไม่ได้คิด service charge ทั้งๆ ที่บริการดีไร้ที่ติ พนักงานทุกคนช่างสังเกตและเหมือนจะเดาความต้องการเราได้ตลอดเวลา เก็บรายละเอียดได้ดี ทำซอสหกหยดนึงก็รีบเช็ดให้ เป็นต้น ตอนนี้เท่าที่ทานชาบูและสุกี้ยากี้เนื้อมายกให้ร้านนี้ขึ้นแท่นเป็นร้านที่เสิร์ฟเนื้อวากิวที่นี่คุณภาพเลิศที่สุดในกรุงเทพแล้วค่ะ ถ้าจะมาลองชิมกันแนะนำให้ลองตัวสุกี้ยากี้ค่ะ เพราะทำให้ได้รสชาติของเนื้ออย่างเด่นชัดแต่ก็มีรสหวานของน้ำสุกี้ยากี้มาช่วยทำให้มีสีสัน ผักที่ต้มมาในน้ำสุกี้ก็หวานอร่อย เป็นอีกหนึ่งร้านที่ชมมากๆ เพราะมันดีมากๆ ไม่รู้จะหาอะไรมาวิจารณ์ด้านลบจริงๆ ค่ะ เชื่อว่าถ้าคุณได้มาลองด้วยตัวเองก็จะชื่นชอบร้านนี้เช่นเดียวกัน