ห่างหายจากวงการราเมนไปนาน รีวิวของเราคราวนี้ขอนำเสนอร้านราเมนสัญชาติญี่ปุ่นแท้ที่นำเข้ามาโดยตรงจากแดนอาทิตย์อุทัย Misoya Ramen ที่เพิ่งเปิดได้สดๆ ร้อนๆ ไม่นานมานี้ โดยร้านตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 13 เข้าซอยไปแล้วเลย J-Avenue ไปไม่ไกลนัก

Misoya Ramen

รสชาติ		ที่ตั้ง: Sukhumvit55 (thonglor13), Bangkok, Thailand 10110 โทรศัพท์: 089-053-7474 Website : Misoya Ramen	EXTENT
คุณภาพวัตถุดิบ
สุขอนามัย
ความคุ้มค่าราคา
สถานที่

ด้านหน้าร้านตกแต่งด้วยไม้ที่ต่อเป็นวงกลมแผ่นใหญ่ ส่วนด้านในมีสองชั้น ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบผสมผสานความโมเดิร์นนิดๆ ตอนที่พวกเรามาถึงร้านเป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว ยังมีลูกค้านั่งอยู่เต็มร้าน เกือบไม่มีที่นั่งกันเลยทีเดียว แต่ไม่ช้าก็เริ่มทยอยกันอิ่มและลุกไป วันนี้มากัน 5 คน เลยขอจัดหนักมาทั้งอาหารทานเล่นและราเมนคนละชาม ระหว่างรอเราก็เก็บภาพบรรยากาศภายในร้าน รวมถึงกระบวนการทำเส้นราเมนสดที่มีให้เห็นกันตรงหน้าร้าน ที่เพิ่งเห็นวิธีการทำครั้งนี้ครั้งแรก ซึ่งแป้งราเมนนี้ทำมาจากข้าวสาลี ... ถ่ายรูปกันสักพักก็เริ่มรู้สึกหิว กลับขึ้นมาที่โต๊ะด้านบนก็พบว่า อาหารทานเล่นพร้อมเสิร์ฟแล้ว เริ่มจาก เกี๊ยวซ่า แป้งเหนียวนุ่ม กับใส้ที่ทำออกมาได้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน รสชาติมาตรฐาน ตามต่อมาด้วย ไก่ทอด ที่มาแบบด้านนอกกรอบนิดๆ ด้านในยังนุ่ม เพิ่มความอร่อยเล็กๆ ด้วยการบีบเลมอนลงไป บวกกับซอสครีมมายองเนสแล้วก็ถือว่าเมนูนี้สอบผ่าน ตามติดมาด้วยเมนูที่ถือว่าเป็นพระเอกของงานนี้คือ หมูชาชาชู หมูชิ้นโตแบบเดียวกับที่ใส่ในราเมนนั่นเอง เนื้อหมูหมักมาอย่างดี เนื้อนุ่ม ติดมันหน่อยๆ รสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อ แถมยังนำมา่ย่างให้ได้กลิ่นหอมๆ เสิร์ฟคู่กับหอมญีุ่่ปุ่นและพริกซอย แม้ว่าหนักเค็มสักหน่อย แต่ก็อยู่ในมาตรฐานเดียวกับร้านราเมนสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ทั้งหลาย โดยรวมแล้วถูกใจ ยิ่งสั่งมาทานเป็นจานแยกจากส่วนที่มาในราเมนจะได้รสชาติที่ดีกว่า

หลังจากอาหารทานเล่นมาเสิร์ฟได้ไม่นาน ราเมนชนิดต่างๆ ก็เริ่มทยอยออกมาเสิร์ฟ ราเมนที่นี่มีให้เลือกใน 3 รูปแบบ คือ โตเกียว ฮอกไกโด และคิวชู โดยความพิเศษของราเมนที่นี่คือเจ้ามันฝรั่งทอดทั้งเปลือกที่ให้มากับราเมนด้วย เริ่มจาก ราเมนมิโสะฮอกไกโดแบบเผ็ด มีไข่ยางมะตูมกำลังดีให้มาครบสูตร ส่วนน้ำซุปรสออกรสเผ็ด แต่ยังคงความหอม มัน กลมกล่อมถูกใจคนชอบทานเผ็ด แม้จะหนักทางเค็มอยู่สักหน่อย จากนั้นก็เป็นคิวของ ราเมนมิโสะโตเกียวผัดผักรวม ชามนี้ได้รสหวานจากผักที่มาในราเมนเข้าช่วยตัวซุปที่ยังไม่เข้มข้นถึงใจเท่าไร ปิดท้ายตระกูลเส้นกันด้วย ราเมนมิโสะคิวชู ที่มีใช้น้ำซุปมิโสะที่ทำจากข้าวบาร์เลย์ นำเข้ามาจากญี่ปุ่นโดยตรง น้ำซุปหอมมัน ให้ความรู้สึกนุ่มลิ้น รสเค็มนำ แต่ก็กลมกล่อม เข้ากับหมูชาชูได้ดี ยังไม่หมดแค่ราเมนเท่านั้น พวกเรายังสั่งข้าวผัดมาลองชิมกันอีกหนึ่งจาน ที่ผัดมาแบบแห้งไปหน่อย แต่ให้เครื่องมาแบบจัดหนัก หมดจานนี้พวกเราถึงกับอิ่มแปล้กันเลยทีเดียว

โดยรวมแล้วนับว่าเป็นร้านราเมนที่น่าลองสักครั้งสำหรับคนที่ชอบราเมนแบบญี่ปุ่นแท้ กับน้ำซุปหอมๆ รสชาติเค็ม มัน เข้มข้น และมีจุดเด่นที่เส้นราเมนสด บวกกับหมูชาชูที่มีความอร่อยไม่แพ้ใคร